global-cruise

Cruise Destination



ล่องเรือสำราญ อลาสก้า จะ พาไปรู้จักกับเส้นทางล่องเรือสำราญที่ได้รับความนิยมมากอีกเส้นทางหนึ่งคือ

อลาสก้า (Alaska Cruise) ซึ่งในหนึ่งปีนั้นจะมีช่วงเวลาแค่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นที่สามารถล่อง เรือสำราญในเส้นทาง อลาสก้าครูซส์ได้ คือ เริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายนของทุกปีที่ อลาสก้านั้นอุดมไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิด ธรรมชาติที่ยังคงความสด ปลอดมลพิษ ทำให้คุณสามารถสูดอากาศอันสดชื่นเข้าได้เต็มปอด ภาพวิวทิวทัศน์ นอกจากนี้วิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นก็น่ารัก น่าศึกษา ทั้งศิลปวัฒนธรรม หัตถกรรมพื้นบ้าน งานไม้แกะสลัก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งแบบชมวิวทิวทัศน์และกลางแจ้งแบบลุยๆ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เช่นกัน และวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจอลาสก้าก็คือ การล่องเรือสำราญนั่นเอง

อลาสก้าครูซส์ (Alaska Cruise) นั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆด้วยกันดังนี้

INSIDE PASSAGE CRUISES - เส้นทางที่เรือสำราญแทบจะทุกบริษัทนำเสนอสำหรับอลาสก้าครูซส์ในช่วงซัมเมอร์ ไม่ว่าจะออกเดินทางจาก ซีแอตเติ้ล (Seattle) หรือ แวนคูเวอร์ (Vancouver) ก็ตามที แล้วล่องผ่านเส้นทางดังกล่าวทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐอลาสก้า ขึ้นไปทางเหนือสู่เมืองจูโน่ (Juneau) สแก๊กเวย์ (Skagway) หรือ เคทชิกัน (Ketchikan) เป็นต้น ก่อนที่จะล่องกลับลงมาสู่เมืองท่าเริ่มต้น เส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากบริหารจัดการท่องเที่ยวได้ง่ายและสะดวก แถมยังครอบคลุมถึงไฮไลท์ต่างๆของ อลาสก้าไว้อย่างครบถ้วน เช่น ธารน้ำแข็งยักษ์ (Hubbard Glacier) หรือ อุทยานแห่งชาติต่างๆ เป็นต้น

NORTHBOUND / SOUTHBOUND CRUISES - เส้นทางนี้นับได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดสำหรับอลาสก้าครูซส์เลยก็ว่าได้ โดยเรือสำราญจะออกเดินทางไม่ว่าจาก แวนคูเวอร์ (Vancouver) ล่องขึ้นไปทางทิศเหนือแล้้วไปจบที่ ซูเวิร์ด (Seward) หรือ แองเคอเรจจ์ (Anchorage) ดังนี้จะถือเป็น Northbound สำหรับเส้น Southbound ก็จะล่องในเส้นทางตรงกันข้ามนั่นเอง ตามปกติแล้วจะใช้เวลาทั้งสิ้น 7 คืนด้วยกันสำหรับเส้นทางดังกล่าว โดยล่องผ่านสถานที่และเมืองท่าที่น่าสนใจ เช่น Inside Passage, Hubbard Glacier, Juneau เป็นต้น

ALASKA PRE-POST CRUISETOURS - สำหรับครูซทัวร์นั้นก็คือ แพคเกจทัวร์ + เรือสำราญนั่นเอง ซึ่งเหมาะมากกับนักท่องเที่ยวที่คิดว่า ไหนๆก็ไปเที่ยวถึงอลาสก้าแล้วทั้งที ก็ควรที่จะลุยให้ถึงกึ๋นไปเลย โดยเรือสำราญเกือบจะทุกบริษัทต่างมีแพคเกจแบบที่ว่านี้ทั้งสิ้น เช่น Alaska Pre Cruisetours Northbound 10 Night ถ้าเป็นแบบ Pre Cruisetours จะเป็นการพาเที่ยวก่อน 3 คืนที่แวนคูเวอร์หรือเมืองใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นแพคเกจทัวร์ หลังจากนั้นจึงจะไปลงเรือสำราญ สำหรับ Post Cruisetours จะเป็นในทางกลับกันคือ ลงเรือสำราญก่อนจากนั้นจบทริปด้วย Cruisetours เป็นต้น

เรือสำราญที่ให้บริการ : NCL, Disney Cruise, Regent Seven sea, Silversea, Oceania Cruise, Holland America Line, Carnival Cruise Line, etc.

ช่วงเวลาในการเดินทาง: เดือน พฤษภาคม-เดือนกันยายน
ล่องเรือสำราญ ยุโรป จะพาไปรู้จักกับทวีปยุโรปในแบบ ยุโรปครูซส์

(Europe Cruise) ทวีปที่ถือว่าได้เต็มไปด้วยความคลาสสิคทุกหนแห่งทีเดียว โดยเฉพาะรอบๆทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้น ถือเป็นภูมิภาคที่น่าอิจฉามากทีเดียวที่เต็มไปด้วย ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมสวยๆงาม ทำให้ทุกวันนี้ยุโรปเป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่มีเรือสำราญเข้าไปบุกตะลุยมากที่ สุดทวีปหนึ่งบนโลกใบนี้แล้ว

การ ล่องเรือสำราญในยุโรปนั้นถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ที่จะได้ท่องเที่ยว พักผ่อน ขณะเดียวกันก็สามารถซึมซับสิ่งดีดีต่างๆรอบกายที่ยุโรปนำเสนอให้ เริ่มต้นออกเดินทางจากเมืองหนึ่งไปจบอีกเมืองหนึ่งในอีกประเทศหนึ่งและ สามารถต่อยอดท่องเที่ยวได้ไม่รู้จบ ดังนั้นวิธีที่จะไปทัวร์ยุโรปที่ดีที่สุด คือ ไปถึงก่อนวันที่เรือสำราญออกเดินทางซัก 2-3 วัน จากนั้นก็ล่องเรือสำราญ และเที่ยวต่อหลังจากจบการเดินทางอีกซัก 2-3 วัน เพราะส่วนใหญ่แล้วพอร์ตต่างๆที่เรือสำราญแต่ละบริษัทเลือกแวะเทียบท่านั้น ล้วนมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น เช่น บาร์ เซโลน่า (Barcelona) โรม (Rome) อัมสเตอร์ดัมม์ (Amsterdam) เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็เป็นการทัวร์ยุโรปที่ดีที่สุดเท่าที่ใครซักคนจะหาได้แล้ว อีกทั้งเพื่อให้ตัวคุณเองสามารถปรับตัวได้อย่างช้าๆ และไม่ต้องทำอะไรเร่งรีบเกินไป

การล่องเรือสำราญในยุโรปแบ่งได้ตามลักษณะภูมิประเทศดังต่อไปนี้

BALTIC CRUISE - การล่องเรือสำราญในทะเลบอลติก ถือเป็นอะไรใหม่ที่ค่อนข้างจะแปลกใหม่และหลากหลาย เพราะนอกจากจะได้ท่องเที่ยวไปในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียแล้ว ยังอาจหมายรวมถึงกลุ่มประเทศเหล่านี้ด้วย เอสโตเนีย (Estonia) ลัตเวีย (Latvia) และ รัสเซีย (Russia) ด้วยอีกเช่นกัน และถ้าโชคดีมากๆ ก็อาจจะได้เทียบท่าที่เยอรมันและโปแลนด์ด้วยเช่นกัน จุดเด่นของเส้นทางเหมาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบทัวร์สแกนดิเนเวียและทะเลบอลติค โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) ประเทศรัสเซีย

WESTERN EUROPE CRUISE - เส้นทางนี้เน้นหลักไปที่ยุโรปตะวันตกและเกาะอังกฤษ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดครูซส์ที่ไปล่องเรือสำราญในยุโรปเป็นครั้งแรก เนื่องเป็นกลุ่มประเทศที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลักและสิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆค่อนข้างทันสมัยและสะดวกสบาย และออกเดินทางจากประเทศอังกฤษที่ท่าเรือเซาท์แธมป์ตัน (Southampton)เป็นหลัก ทั้งเริ่มต้นและจบครูซส์

สำหรับ MEDITERRANEAN CRUISE นั้นก็สามารถแตกย่อยได้เป็นอีก 2 ประเภทดังนี้

WESTERN MEDITERRANEAN CRUISE - อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส ตอนเหนือของทวีปแอฟริกาและเกาะน้อยใหญ่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือว่าเข้าข่ายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกทั้งหมด เส้นทางดังกล่าวนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลด้านประวัติศาสตร์ ของเก่า ความคลาสสิคแห่งยุโรป ช้อปปิ้ง เกาะแก่งต่างๆและชายหาด

EASTERN MEDITERRANEAN CRUISE - เส้นทางนี้ปกติแล้วครอบคลุมกลุ่มประเทศต่างๆเหล่านี้ ได้แก่ ตุรกี (Turkey) กรีซ (Greece) อิสราเอล (Israel) โครเอเชีย (Croatia) ไซปรัส (Cyprus) และ อียิปต์ (Egypt) เป็นต้น จุดเด่นของภูมิภาคนี้คือถือเป็นจุดกำเนิดอารยธรรมของมวลมนุษยชาติ ซึ่งน่าสนใจและน่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง

เรือสำราญที่ให้บริการ : Costa,MSC,Sliversea,Regent Seven Sea,Seaborn, Ocenia Cruise,Disney Cruise,NCL,Crystal Cruise,Holland America Line,etc.

ช่วงเวลาการเดินทาง: ตลอดทั้งปี
ล่องเรือสำราญ แคริบเบียน จะพาคุณไปรู้จักกับหมู่เกาะสวรรค์ในทะเลแคริบเบียน

ชื่นชมภาพท้องฟ้าสีสันสดใส เกลียวคลื่นที่กระทบชายหาดอย่างนุ่มละมุน ต้นมะพร้าวที่พลิ้วไหวตามสายลมท่ามกลางอากาศอันอบอุ่นด้วยแสงแดดตลอดทั้งวัน และตบท้ายด้วยอาทิตย์อัสดงอันสวยงาม ที่หมู่เกาะแคริบเบียนยังมีกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย เช่น นั่งจิบค็อกเทลเย็นๆท่ามกลางเสียงดนตรีในบรรยากาศแบบแคริบเบียน เอนกายในเปลญวน ดำน้ำดูแนวปะการังที่สวยที่สุดในโลก เลาจ์นริมชายหาด หรือกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์สปอร์ต เช่น เรือลากร่ม (Parasail) วินด์เซิร์ฟ (Windsurf) เจทสกี (Jet-Ski) ดำน้ำ (Skuba Dive) ร้านค้าปลาหลากสีสัน ช้อปปิ้ง ออกรอบตีกอล์ฟ เหล่านี้ล้วนรอคุณอยู่ที่หมู่เกาะแคริบเบียน

แนว ชายหาดหลากสีสันทั้ง ทอง ขาว ชมพู เงินและดำขลับ ที่ยาวเหยียดเป็นไมล์ๆ ให้คุณละลานตาถึงความหลากหลาย แนวหมู่เกาะทอดยาวโค้งตั้งแต่ คีย์เวสต์ (Key West) ไปจบแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเวเนซุเอล่า ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก็จะมีวัฒนธรรมแตกต่างกันไปเฉกเช่นเดียวกับสีของหาดทราย นักล่าอาณานิคมก่อนหน้านี้ ยังคงทิ้งร่องรอยอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่างๆไว้มากมายทั้ง ฝรั่งเศส ดัตช์ สวีเดน อังกฤษและสเปน บรรพบุรุษของผู้คนท้องถิ่นที่นี่ทาสชาวแอฟริกันที่มากับนักล่าอาณานิคมนั่น เอง การล่องเรือสำราญในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะพบกับความ แตกต่างทั้งทางด้าน ภาษา วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม บางหมู่เกาะได้แปรเปลี่ยนให้ทันสมัยเก๋ไก๋ขึ้นตามกาลเวลา ขณะที่อีกหลายๆเกาะก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของตัวเอง

จุด เด่นของการล่องเรือสำราญในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนคือ สภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดปี สิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเรือ (กว่า 50% ขึ้นตรงกับสหรัฐฯ) จึงทำให้หมู่เกาะแคริบเบียนโดดเด่นบนเวทีโลก ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับเรือสำราญ และด้วยตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่ 3-5 คืนไปจนถึง 7 คืนขึ้นไปด้วยแล้วนั้น ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่หัดครูซส์

การล่องเรือสำราญในหมู่เกาะแคริบเบียนแบ่งตามลักษณะภูมิประเทศได้ดังต่อไปนี้

EASTERN CARIBBEAN - ตามปกติแล้วเส้นทางนี้จะล่องแบบไป-กลับจากรัฐฟลอริดา (Florida) ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 3-7 คืนด้วยกัน โดยถ้าเป็นระยะเวลา 3-4 คืนนั้นมักจะเทียบท่าที่ บาฮามาส (Bahamas) ส่วนครูซส์ 7 คืนนั้นมักจะแวะเทียบท่าที่พอร์ตเหล่านี้ แซงค์ โธมัส (St. Thomas) เซนต์ จอห์น (St. John) แซงค์ มาร์แตง (St. Maarten) หรือ ซาน ฮวน (San Juan) เป็นต้น โดยจำนวนเมืองที่เทียบท่านั้นจะแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมเดินทาง (Cruise Itinerary) และบริษัทเรือสำราญ นอกจากเรือสำราญจะออกเดินทางจากท่าเรือหลักจากรัฐฟลอริดาแล้ว ในปัจจุบันยังได้ขยายเส้นทางไปสู่ท่าเรือทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯด้วย เช่นกัน นิวยอร์ค (New York) บอลติมอร์ (Baltimore) และฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) เป็นต้น

WESTERN CARIBBEAN - สำหรับเส้นทางทางด้านฝั่งตะวันตกของหมู่เกาะแคริบเบียน ใช้ระยะเวลาไม่แตกต่างกันมากนักคือ 4-5 คืน หรือ 7 คืน และออกเดินทางจากพอร์ตหลักคือที่ ฟลอริด้า (Florida) นิวออร์ลีนส์ (New Orleans) แกลเวสตัน (Galveston) หรือที่ ฮูสตั้น (Houston) สำหรับเมืองที่จะเทียบท่าในเส้นทางฝั่งตะวันตกนี้ ได้แก่ คอร์ซูเมล์ (Corzumel) แกรนด์ เคย์แมน (Grand Cayman) มอนเตโกเบย์ (Montego Bay) โอโช ริออส (Ocho Rios) เบลิซ (Belize) เป็นต้น นอกจากนี้ก็อาจจะแวะยังเกาะสวรรค์ส่วนตัวของบริษัทเรือสำราญนั้นๆด้วย เช่น Princess Cay, Coco Cay, Labadee เป็นต้น

SOUTHERN CARIBBEAN - จุดเด่นสำหรับเส้นทางทางตอนใต้ของหมู่เกาะแคริบเบียนคือความหลากหลายของพอร์ตที่เทียบท่า โดยออกเดินทางจากพอร์ตหลักคือ ซาน ฮวน (San Juan, Puerto Rico) ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 6-17 คืนด้วยกัน โดยความหลากหลายที่ว่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ ซาน ฮวน (San Juan) ไล่ไปจนถึงชายฝั่งตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้เลยทีเดียว จึงทำให้คุณสามารถล่องเรือสำราญในเส้นทางนี้ได้ถึง 2-3 ครั้งโดยแทบจะไม่ซ้ำซักเมืองเดียวเลยด้วยซ้ำ

CIRCLE THE CARIBBEAN - สำหรับในแบบสุดท้ายคือแบบ รวมหมดทั้งตั้งแต่ ตะวันออก ตะวันตก และ ตอน ใต้ของหมู่เกาะแคริบเบียน ซึ่งอาจรวมถึงคลองปานามา (Panama Canal) ด้วยเช่นกัน ซึ่งบ่อยครั้งหมายถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเรือสำราญตามฤดูกาล (Repositioning) นั่นทำให้คุณอาจจะได้เริ่มต้นทริปจากอีกเมืองหนึ่งและไปจบที่อีกเมืองหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีเวลาและอยากจะล่องเรือสำราญนานซักหน่อย เส้นทางนี้ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 10-17 คืนด้วยกัน สุดท้ายแล้วนั้น ไม่ว่าคุณกำลังมองหาทริปล่องเรือสำราญแบบไหนก็ตาม โรแมนติก แอดเวนเจอร์ สนุกสนาน มันส์ๆ หมู่เกาะแคริบเบียนถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการล่องเรือสำราญเสมอ

เรือสำราญที่ให้บริการ : Costa, MSC, Oceania Cruise, Regent Seven Sea ,Sliversea, Disney Cruise, Seaborn, NCL, Carnival Cruise, Holland America,etc.

ช่วงเวลาการเดินทาง: ตลอดทั้งปี
ล่องเรือสำราญ อเมริกาใต้ จะพาไปรู้จักกับทวีปอเมริกาใต้

ดินแดนที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทั้งทางด้านวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ และเส้นทางล่องเรือสำราญอันหลากหลายทั้ง ความสวยงามทางธรรมชาติ ภูเขา แม่น้ำ ทะเลทราย ป่าดิบชื้น ชายหาด ทะเลสาป ธารน้ำแข็ง และชายฝั่งฟยอร์ด นอกจากนี้ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ผู้คน ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมก็เป็นยิ่งที่น่าสนใจเช่นกัน สำหรับการล่องเรือสำราญในอเมริกาใต้นั้น คุณสามารถสำรวจ วัฒนธรรมของชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง ชีวิตสัตว์ป่าตามธรรมชาติ เยี่ยมชมเมืองที่สดใสและพลุกพล่าน หรือเมืองเล็กๆตามชนบท ปีนป่ายธารน้ำแข็ง ตกปลาแซลมอน หรือพักผ่อน ณ ชายหาดระดับโลก ฤดูล่องเรือสำราญในอเมริกาใต้นั้น จะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเมษายนปีถัดไปเป็นประจำทุกปี โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการไปทัวร์อเมริกาใต้ เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูร้อนของซีกโลกตอนใต้ แต่ด้วยความกว้างใหญ่ของทวีปนี้ ทำให้ในทริปล่องเรือสำราญของคุณนั้น อาจจะเผชิญกับหลายสภาวะอากาศได้เช่นเดียวกัน

การล่องเรือสำราญในอเมริกาใต้แบ่งตามลักษณะดังต่อไปนี้

REPOSITIONING CRUISE - ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เรือสำราญจะเริ่มออกเดินทางจากท่าเรือต่างๆ เช่น ซาน ดีเอโก้ (San Diego) หรือ ไมอามี่ (Miami) และมุ่งสู่ทวีปอเมริกาใต้เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลล่องเรือสำราญในภูมิภาคนี้ ตามปกติแล้วจะกินระยะเวลา 15-18 คืนด้วยกันสำหรับเส้นทาง Southbound ลักษณะนี้ โดยอาจเริ่มจาก คลองปานามา (Panama Canal) เอกวาดอร์ (Ecuador) เปรู (Peru) และตอนเหนือของประเทศชิลี และจะไปจบการเดินทางที่เมืองวัลปาไรโซ่ (Valparaiso) ประเทศชิลี สำหรับเส้น Southbound อีกเส้นทางหนึ่งนั้นจะล่องข้ามเส้นศูนย์สูตร มาทางชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ และจะเทียบท่าที่เมืองต่างๆของประเทศบราซิล (Brazil) และจะจบการเดินทางที่เมืองบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) ประเทศอาร์เจนตินา และเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลล่องเรือสำราญในอเมริกาใต้ในเดือนเมษายน เรือสำราญต่างๆก็จะล่องกลับไปยังพอร์ตหลักของตัวเองตามเส้นทางเดิม

EASTBOUND / WESTBOUND CRUISE ROUND CAPE HORN - สำหรับเส้นทางนี้ไฮไลท์อยู่ที่แหลมเคปฮอร์น (Cape Horn) ประเทศชิลี สำหรับเส้น Eastbound นั้นจะเริ่มต้นที่เมือง วัลปาไรโซ่ (Valparaiso) ประเทศชิลี ล่องลงทางตอนใต้เลียบชายฝั่งประเทศชิลีสู่ ชายฝั่งฟยอร์ดของประเทศชิลี ช่องแคบแมคเจลแลน (The Strait of Magellan) ก่อนจะวนรอบแหลมเคปฮอร์น และล่องขึ้นทางทิศเหนือไปตามชายฝั่งประเทศอาร์เจนตินา

เกือบ จะทั้งหมดของครูซส์ลักษณะนี้จะไปสิ้นสุดที่เมืองบัวโนไอเรส (Buenos Aires) ประเทศอาร์เจนตินา หรือที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) ประเทศบราซิล ในขณะเดียวกันเส้น Westbound นั้นก็คือจะล่องกลับกันในเส้นทางเดิมและจะไปจบการเดินทางที่เมืองวัลปาไรโซ่ (Valparaiso) ประเทศชิลี สำหรับระยะเวลาในเส้นทางดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 14- 20 คืนด้วยกัน และในช่วงดังกล่าวนี้คุณจะพบกับความหลากหลายของสภาพภูมิอากาศ โดยคุณจะเริ่มต้นล่องเรือสำราญจากสภาพอากาศที่อบอุ่น และจะหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้แหลมเคปฮอร์น (Cape Horn) ดังนั้นเส้นทางนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวจะเที่ยวได้ คุณต้องมีสภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรงด้วยเช่นกัน

เรือสำราญที่ให้บริการ : Costa, MSC ,Regent Seven Sea,Seaborn ,Silversea, Oceania Cruises ,Holland America Line, Crystal Cruise,etc.

ช่วงเวลาการเดินทาง: ตลอดทั้งปี